จากการเสด็จประพาสต้นภาคเหนือของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ ทรงทอดพระเนตรเห็นความทุกข์ยากลำบากของราษฎร และปัญหาการปลูกฝิ่นอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติและเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติจึงมีพระราชดำริให้จัดตั้งโครงการพระบรมราชานุเคราะห์ชาวเขาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการปลูกฝิ่นโดยโครงการส่งเสริมให้ปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไทยภูเขาต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๓๗ มีพระบรมราโชวาทให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จัดตั้งนิติบุคคลชื่อ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด (Doi Kham Food Products Co.,Ltd.) เพื่อความสะดวกในการดำเนินธุรกิจเชิงพาณิชย์โดยรองรับผลผลิตของมูลนิธิโครงการหลวงและเกษตรกรในพื้นที่โดยรอบโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปทั้ง ๓ แห่ง เพื่อผลิตสินค้าที่มีคุณภาพภายใต้ชื่อตราผลิตภัณฑ์ ดอยคำ
โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๑ (ฝาง)
โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปตั้งอยู่ที่ บ้านยาง ตำบลแม่งอน อำเภอฝางจังหวัดเชียงใหม่ ในระยะแรกของการดำเนินการ โรงงานมีลักษณะ เป็นเพียงโรงงานเคลื่อนที่โดยใช้รถยนต์ดัดแปลงให้เป็นโรงงานเคลื่อนที่ต่อมาได้ใช้อาคารของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเป็น โรงงานชั่วคราว ซึ่งการที่ตั้งโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปขึ้นมานั้นเกษตรกรสามารถนำเอาผลผลิตมาจำหน่ายได้ในราคายุติธรรมต่อมาได้มีการสร้างโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปขึ้นในบริเวณที่เป็นตลาดร่มเกล้าและสหกรณ์แม่งอนเดิมเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปได้แบ่งบุคลากรออกเป็น ๓ ฝ่ายหลักคือ ผู้จัดการที่มีความรู้เรื่องการถนอมอาหาร เจ้าหน้าที่ควบคุมคุณภาพ และ ช่างลักษณะของการดำเนินโครงการหลวงนี้จะมีลักษณะเป็นแบบการพัฒนาชนบท ซึ่งจากประวัติความเป็นมามักจะเริ่มต้นด้วยการพัฒนาท้องที่ มีการจัดตั้งสถานีอนามัยชั้นสองและศูนย์โภชนาการเด็กเพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยของคนในชุมชนควบคู่ไปด้วยอันถือได้ว่าเป็นการสะท้อนแนวคิดด้านการช่วยเหลือประชาชนบนพื้นที่สูงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๑ (ฝาง)จัดเป็นโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปแห่งแรกที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นตลอดจนเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม กล่าวคือยึดเอาแนวคิดด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมมาใช้ ทั้งการใช้พลังงานในโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๑ (ฝาง) ที่นำเอาพลังงานน้ำมาใช้ รวมทั้งการกำจัดของเสีย อย่างไรก็ตามพื้นที่ตั้งโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๑ (ฝาง)ประสบกับปัญหาการเกิดอุทกภัยขึ้นหลายครั้งโดยอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ทำความเสียหายให้โรงงานได้เกิดขึ้นจำนวน ๒ ครั้งโดยครั้งที่ ๑ เกิดเมื่อวันที่ ๑๓ - ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ส่วนครั้งที่ ๒ นั้นเกิดจากการที่น้ำท่วมและดินโคลนถล่มลงมาตามลำห้วยแม่งอน แม่ขาน และแม่ขานน้อยลงมาสู่ที่ราบ เนื่องจากเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ ๘ - ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๙ ทำให้เกิดความเสียหายกับโรงงานเป็นอย่างมาก รวมไปถึงมีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจำนวน๑๕ หมู่บ้าน ภายหลังอุทกภัยในครั้งนี้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ บจ.ดอยคำฯได้วางแนวทางการดูแลฟื้นฟูโรงงานหลวง ออกเป็น ๔ ด้าน ได้แก่ ด้านงานพิพิธภัณฑ์ด้านงานการผลิตและการฟื้นฟูโรงงานหลวง ด้านการเรียนรู้ และด้านธุรกิจสนับสนุนโดยเริ่มเปิดดำเนินการผลิตอีกครั้งในเดือน พฤษภาคม ปี พ.ศ. ๒๕๕๒
โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๒(แม่จัน)
ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านป่าห้า ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จันจังหวัดเชียงราย ก่อตั้งขึ้นเมื่อราว พ.ศ. ๒๕๑๗ โดยมี ศาสตราจารย์ อมร ภูมิรัตนในนามของสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัเกษตรศาสตร์เป็นผู้อำนวยการ ดำเนินการอยู่ภายใต้การควบคุมของหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนีเช่นเดียวกันกับที่โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๑ (ฝาง)โดยมีจุดประสงค์เพื่อรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่ได้รับการส่งเสริมให้มีการเพาะปลูกพืชเมืองหนาวทดแทนการปลูกฝิ่นจากมูลนิธิโครงการหลวงโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๒ (แม่จัน)เปิดทำการทดลองผลิตข้าวโพดฝักอ่อน น้ำนมถั่วเหลือง เมื่อ วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๗ ซึ่งได้รับพระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ ๑๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนของโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป และได้ทูลน้อมเกล้าฯ ถวายโรงงาน เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๙ ซึ่งนอกจากเงินทุนส่วนนี้แล้ว ยังมีเงินทุนสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่ บริษัทต่างประเทศ และรัฐบาลต่างประเทศ โดยเสด็จพระราชกุศลถวายเงิน ที่ดิน เครื่องจักร อุปกรณ์ และสิ่งปลูกสร้างด้วยโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๓ (เต่างอย)
โรงงานแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร(ในสมัยนั้นเป็นกิ่งอำเภอเต่างอย) ถือกำเนิดขึ้น ระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศ จังหวัดสกลนครได้เสด็จไปยังหมู่บ้านนางอย ~ โพนปลาโหล เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๓ และได้ทอดพระเนตรเห็นความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นของราษฎร จึงมีพระราชดำริให้หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธ์ และศาสตราจารย์ อมร ภูมิรัตน เข้าไปดำเนินการ โดยมีพระราชดำริเกี่ยวเนื่องกับการพัฒนา คือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น